เป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่หลายคน อยากเรียนต่อปริญญาโท แต่ยังสับสน หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจะเรียนอะไรดี? และใครๆ ก็อยากเรียน MBA แล้ว MBA คืออะไร? ผมขอไขข้อข้องใจง่ายๆ แล้วกัน
MBA ย่อมาจากคำว่า Master of Business Administration ถ้าเป็นภาษาไทย ก็คือปริญญา บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต และคำถามจะมีตามมากันอีกว่า ถ้าไม่ได้จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจมา แล้วจะเรียนต่อโท บริหารธุรกิจได้ไม๊? คำตอบส่วนตัวผมคือ ได้!!! สนับสนุนเลย เพราะอะไร? ลองไปดูก่อนว่าเพราะอะไร?
MBA เรียนอะไร? MBA เป็นการเรียนรู้ทุกอย่างที่นักบริหารต้องรู้ และจะเห็นได้ว่าโครงสร้างธุรกิจ เราจะต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจอะไรบ้าง?
จะเห็นได้ว่าพื้นฐานวิชาในการเรียนบริหาร ก็เป็นวิชาหลักๆ ทั้งนั้น เอาตรงๆ เลยนะ อะไรบ้างที่ต้องรู้? หลักการจัดการ, บัญชี, การเงิน, การตลาด, การจัดการเชิงกลยุทธ์, การจัดการการดำเนินงาน, เศรษฐศาสตร์, การวิจัยทางธุรกิจ พอมาถึงตรงนี้ ก็มีคำถามกันว่าที่หลายคนสงสัย เพราะตัวเองเกลียดคำนวนเหลือเกิน จะรอดไม๊ เจอพวกบัญชี พวกการเงิน.... ผมเข้าใจนะ... แต่... ถ้าคุณคิดว่าตัวเองจะเติบโตในสายบริหาร หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือจะเป็นหัวหน้างาน หรือผู้จัดการเอง แต่กลับไม่รู้ ดูไม่เป็น ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ที่บอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย มาดูแล แต่ตัวเองกลับดูอะไรไม่เป็นเลย มันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่นะครับ (มาตรงนี้ผมก็คิดนะ เมืองไทยยังเรียนง่ายกว่า เพราะตอนผมเรียนที่ ตปท. จำได้เลยยังต้องเรียนพวก Statistic เพิ่มอีกต่างหาก) นี่ละครับเบื้องต้น ที่ต้องเรียนใน MBA
จบจากเรียนวิชาแกนทางธุรกิจไปแล้ว ก็คงต้องถึงเวลาเลือกว่าจริงๆ แล้วเราควรไปทางใหนกันดี ระหว่างเอกวิชาการตลาด หรือการจัดการดีกว่ากัน (ก่อนไปถึงการเลือกสาขาวิชา ลองคิดตามนะครับว่าเราอยากเติมเต็มทางด้านใหนดี?)
จากภาพนี้ ผมขอสมมุติภาพเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนนะครับ สมมุติว่า บริษัท คือ กล่องใบหนึ่ง
แล้วกล่องใบนี้ว่างเปล่า คุณจะบริหารจัดการอย่างไรให้กล่องใบนี้มีความมั่นคง แข็งแรง และเติบโตขึ้นได้
บอกเลย... "การจัดการ" มีบทบาทหน้าที่สำคัญมาก และสำคัญยังไงเหรอ?
การจัดการทั่วไป จริงๆ มันไม่มีคำว่าทั่วไปจริงๆ หรอกครับ เพราะสำหรับผมการจัดการมีความสำคัญ และยากเหมือนกัน ใครคิดว่า คิดอะไรไม่ออกก็เรียนการจัดการดีกว่า ลองย้อนกลับไปคิดใหม่ ว่าคุณอยากรู้อะไร? มาลองดูวิชาที่มักนิยมเปิดสอนกันก่อน เช่น การจัดการทุนมนุษย์, การจัดการการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาองค์การ, โอกาสทางธุรกิจและนวัตกรรม, ประเด็นสำคัญในปัจจุบันทางการจัดการ เป็นต้น หากดูชื่อวิชาเบื้องต้น พอเห็นภาพตามหรือยังครับ? องค์กรเราจะต้องพัฒนาได้อย่างไร? อะไรเป็นตัวผลักดันให้องค์กรพัฒนาขึ้นบ้าง? บุคคลากรที่เป็นปัจจัยสำคัญในองค์กรเราจะต้องให้ความสำคัญอย่างไร?
ขอพูดสั้นๆ เลยนะครับ หากคุณเป็นผู้บริหาร การจัดการสำคัญมาก ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาองค์กรได้ จริงๆ รายละเอียดมีอะไรกว่านี้อีกมาก พูดแค่นี้ก็ไม่จบ เขียนยาวกว่านี้ก็ไม่อยากอ่าน
จากภาพนี้เห็นภาพง่ายขึ้นใหมครับ นี่ละ! องค์กรจะเข้มแข็งได้ด้วยการจัดการที่ดี :) ขอพูดแบบลำเอียงหน่อยนะครับ เพราะผมเองเป็นเด็กการตลาด แถมโครงการนี้ก็เป็นโครงการการตลาด "ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร ถ้าคุณอยากโตในสายบริหาร ถ้าคุณเป็นหัวหน้างาน ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ เรียนเถอะ "การจัดการ" และคนทั่วไปละ? ผมก็คิดว่าเรียนได้ ซึ่งคุณจะเข้าใจองค์กร แต่คุณอาจจะเปลี่ยนแปลงองค์กร ไม่ได้...
การตลาด ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการ เคยคุยกับนักศึกษาหลายๆ คน บางคนยังมองว่างานการตลาด คือ การขาย ถามผมว่าผิดไม๊? ก็ไม่ผิด เพราะการขายก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ถ้าคุณอยู่ในระดับบริหาร อาจต้องมองไปไกลกว่านั้น เช่น การวางแผนเชิงกลยุทธ์ แผนการตลาด อะไรแบบนี้
หากเปรียบเทียบกล่อง คือ บริษัท การตลาดไปอยู่ตรงใหน ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งในองค์กร สำหรับผม หากย้อนไปมองการจัดการก่อนหน้านี้ ถึงการบริหารจัดการองค์กรจะดีแค่ใหนก็ตาม แต่ถ้าทีมการตลาดไม่เข้มแข็ง บริษัทอาจไม่โตก็ได้ แล้วยังไงละ? ลองไปดูภาพตัวอย่างก่อนแล้วกัน
หากยกตัวอย่างว่า กล่อง คือ บริษัท ในฐานะการตลาด ก็คงต้องระบายสีกล่องให้สะดุดตาผู้พบเห็น ตลอดจนเอาตัวเองไปอยู่ในใจของลูกค้า ซึ่งการตลาดวันนี้ แนวคิดเปลี่ยนแปลงทุกวัน หลักคิดในอดีต หากไม่พัฒนา ไม่เปลี่ยนแนวคิด ไม่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป คงจะอยู่ยากขึ้น
คำถามที่นักศึกษามักอยากรู้ว่า การตลาด เรียนอะไรกัน ลองไปดูภาพประกอบต่อไป น่าจะช่วยให้ผู้ที่อยากเรียนต่อปริญญาโท หลายๆ คน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ตอบตามตรงเลยนะครับ เอาแบบง่ายๆ (มาเรียนแล้วจะรู้ว่าเราคิดอะไรเยอะกว่านี้อีกมาก) การตลาด มักจะเป็นการทำความเข้าใจผู้บริโภค วิชาที่เด็กเอกการตลาด เรียนกันมีอะไรบ้าง? ยกตัวอย่างแล้วกัน พฤติกรรมผู้บริโภค, การบูรณาการเครื่องมือสื่อสารทางการตลาด, การตลาดทางตรงและอิเล็กทรอนิกส์, ผลิตภัณฑ์และราคา, ประเด็นสำคัญในปัจจุบันทางการตลาด เป็นต้น วิชาต่างๆ ที่กล่าวมา บอกได้เลยครับ หากเข้าใจแก่นของการตลาดแล้ว วิชาต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวเติมเต็ม และทำให้คุณสามารถไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ไม่ยาก
สำหรับเรื่องนี้คือเรื่องจริง ถึงสินค้าเราจะดีแค่ใหน แต่หาคนซื้อไม่ได้ก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันได้เลยทีเดียว ผมเองมักจะบอกนักศึกษาทุกคนเสมอว่า ไม่มิสินค้าชิ้นใหนที่ขายไม่ได้ ต่อให้สินค้าชิ้นนั้นในตลาดจะมีมากจนเกินความต้องการก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือ หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เจอ และต้องเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าให้ได้ ผมบอกตามตรงนะครับ พูดง่าย!!! แต่ทำยาก!!! มาเรียนสิครับ ผมเชื่อว่าความคิดคุณต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอน
สรุป...สั้นๆ ก่อนจากกันไป ถ้าอยากเรียนต่อ ปริญญาโท จะเป็น การจัดการ หรือ การตลาด ถามตัวเองก่อนเลยว่า การที่จะตัดสินใจเรียนต่อ อะไรคือสิ่งที่เราอยากได้? อะไรสิ่งที่ตอบแผนการจัดการชีวิตเราเอง? อยากเรียน MBA อยากรู้อะไร? ถ้ายังมีเวลา มีแรง และมีเงิน ก็มาเรียนต่อเถอะ จะเรียนอะไรก็ตาม ก็ยังได้แนวคิดที่ดีสำหรับเราอยู่ดี
ก่อนจากกัน... หากคุณสนใจด้าน “การตลาด“ ผมก็ขอนำเสนอ และแนะนำโครงการ M.B.A. for IT-Smart Program หน่อยนะ
โครงการ M.B.A. for IT-Smart Program เอกวิชาการตลาด ภายใต้แนวคิด Innovative Marketing
โครงการ M.B.A. for IT-Smart Program นี้ คืออะไร? ก็เป็นโครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต เอกวิชาการตลาด เข้าใจง่ายๆ ก็ ปริญญาโท การตลาด นี่ละครับ ต่างจากที่อื่นไม๊? ผมบอกตามตรง บริหารธุกิจ ก็คือบริหารธุรกิจ เหมือนๆ กับที่อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดโครงการตั้งแต่ปี 2547 และด้วยการเป็นเอกวิชา "การตลาด" เราจึงกำหนดแนวคิดว่า Innovative Marketing ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจว่า การตลาด เปลี่ยนแปลงทุกวัน รวดเร็ว และจำเป็นต้องปรับตัวอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งหากคุณปรับตัวไม่ทัน อาจส่งผลให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้
ในตัวเนื้อหาวิชาที่เรียน ก็ยังมีการสอดแทรกแนวคิดการตลาด เครื่องมือทางการตลาด ที่มีความจำเป็นสำหรับนักการตลาดที่ต้องเรียนรู้ โดยโครงการยังมีการสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ Digital Marketing, Social Media Marketing, Data Mining, Big Data เป็นต้น ซึ่งแนวคิดต่างๆ ยังปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ถึงตรงนี้ หลายๆคน ก็ยังกลัวว่า การเรียนต่อปริญญาโท เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เรียนบริหารธุรกิจมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว นักศึกษาเกิน 85% ที่เรียนต่อปริญญาโท บริหาธุรกิจ ไม่ได้จบบริหารมาตั้งแต่ปริญญาตรี และนอกเหนือจากนั้น การเรียนต่อปริญญาโท ที่รามคำแหง ไม่มีเกียรตินิยม เพราะไม่สนับสนุนในการแข่งขันกันเรียน การเรียนจึงเป็นการเรียนในลักษณะ เรียนรู้ไปด้วยกัน เมื่อคุณเข้ามาเรียน ก็จะมีเพื่อน มีพี่ มีน้อง มีกลุ่มที่ช่วยสนับสนุนการเรียน ตลอดจนทีมอาจารย์ ที่คอยให้คำปรึกษา รวมถึงทีมเจ้าหน้าที่ ที่คอยให้คำแนะนำ คำตอบ เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความตั้งใจ และความกระตือรือล้น" เป็นตัวผลักดันตัวคุณเองให้ประสบความสำเร็จ
ขอสรุปตรงนี้นะครับ หากคุณสนใจการตลาด หากคุณต้องการพัฒนาตัวเอง หากคนอยากเรียนต่อด้านการตลาด ผมก็ขอแนะนำโครงการ M.B.A. for IT-Smart Program เอกวิชาการตลาด ม.รามคำแหง ภายใต้แนวคิด Innovative Marketing และเชื่อว่าจะตอบโจทย์ ในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันของคุณได้
หากสนใจ สามารถเข้าศึกษาข้อมูลที่
website: www.3m-it.ru.ac.th
facebook: ram.mba.marketing
โทรศัพท์: 02-310-8588 หรือ 087-591-1401
มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก : อาคารสุโขทัย ชั้น 7 ห้อง 710 (SKB710) ทุกวัน 9.00-19.00 น.
ขอทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ ผมเชื่อเสมอว่าคนไทยเก่ง คิดและผลิตสินค้า หรือบริการที่ดีได้ แต่ปัญหาของเราในปัจจุบ้นคือ ยังไม่รู้ว่าจะหาช่องทางการขาย วางแผนการขาย และนำเสนอให้คนรู้จักเราได้อย่างไร? ถึงเวลาหรือยัง ที่เราต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ และความคิดของตัวเราเอง แทนการรอนโยบายภาครัฐ รอคนกลางที่จะมาดำเนินการแทนเรา ผมเชื่อสนิทใจจริงๆ "คนส่วนใหญ่ ไม่รู้เรื่องการตลาด ผลิตได้ คิดได้ แต่... ขายไม่เป็น"
ติดตาม/แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาด
สามารถติดตามข่าวสาร และแลกเปลี่ยบข้อมูลผ่าน Open Chat ของโครงการฯ ได้ที่
แสดงความคิดเห็น