หลายคำถาม จากการได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเรียนต่อปริญญาโท โดยเฉพาะ "อยากเรียนต่อการตลาดดีหรือไม่?"

ผมขอสรุปประเด็นคำถาม ข้อสงสัย และปัญหาต่างๆ ลองฟังคำถามเหล่านี้ดูนะครับว่า เราเองเป็นหนึ่งในนี้หรือเปล่า หรือใครมีคำถามนอกเหนือจากนี้ฝากคำถามไว้นะครับ จะไว้มาแชร์ข้อมูลกัน

  • ไม่มีความรู้ด้านบริหารธุรกิจ จะเรียนได้หรือเปล่า?
  • อยากเรียนการตลาด เพราะอยากเป็นนักการตลาด
  • จะเรียนอะไรดี ระหว่าง การตลาด หรือ การจัดการ ดี?
  • อยากได้ Connection ที่รามเป็นอย่างไร?
  • แล้ววิชาคำนวน เช่น บัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ โอ๊ย!! จะเรียนไหวหรือเปล่าเนี๊ย?
  • อายุน้อยมาก ไม่มีประสบการณ์ หรือ อายุมากแล้ว จะเรียนกับน้องๆไหวหรือเปล่า?
  • อยากเรียน Digital Marketing อย่างเดียว
  • กลัวเรียนไม่จบ...
  • อยากเรียน Online อย่างเดียวได้หรือเปล่า?
  • โครงการ MBA IT-Smart Program สอนอะไร?
    ทุกข้อคำถาม ผมขอสรุปเป็นแนวคิดให้เข้าใจกันก่อนนะครับ ซึ่งอาจจะไม่ได้ตอบคำถามทั้งหมดโดยตรง แต่น่าจะทำให้เราได้คำตอบของตัวเองได้เช่นกัน

   เริ่มต้น ต้องบอกกันก่อนนะครับว่า หากอยากได้การตลาดแน่นๆ เต็มๆ ขอบอกตรงนี้เลยว่า MBA การตลาด ไม่ตอบโจทย์แน่นอน แนะนำว่าให้ไปเรียนปริญญาโท ที่เป็น MS (Master of Science in Marketing) หรือ MA (Master of Art in Marketing) เพราะทั้ง 2 ปริญญาที่กล่าวมานี้ จะเน้นด้านการตลาด หนักๆมากกว่า ส่วนตัวผมบอกเลยว่าดี แค่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราเองเข้าใจหลักการของการทำธุรกิจได้ชัดเจนแค่ไหน หากคุณเป็นนักธุรกิจตัวยง บริหารจัดการได้ดีแล้ว ปริญญา MA หรือ MS จะขับเคลื่อนให้ไปสายการตลาดแบบแน่ๆ แน่นอน

แล้ว... MBA Marketing ละเรียนอะไรต่างจาก MS หรือ MA อย่างไร?

คำตอบครับ MBA ชื่อเต็มคือ Master of Business Adminstration ซึ่งจะบอกว่า เป็นปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ถ้าขยายความ ก็คือ คุณกำลังจะอยู่ในระดับบริหารขององค์กร ธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ หรือจะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ ที่นักบริหารต้องการข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจจะต้องครบทุกๆด้าน 

ถ้าอธิบายให้ชัดมากๆ ลองนึกถึงบริษัทสักหนึ่งบริษัท หรือธุรกิจของคุณเอง ทำไมต้องมี กรรมการบริหาร ผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบริหารความเสียง ฝ่ายการตลาด ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น

ถึงตรงนี้ มาขออธิบายต่อ ในฐานะที่คุณคิดจะเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจ หรือ MBA ก็ขอบอกว่า คุณกำลังจะต้องโตไปในระดับบริหาร เลยต้องรู้และเข้าใจโครงสร้างทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจซะก่อน

เคยไหม? คุยกับผู้บริหาร แล้วงงชีวิตมาก พูดอะไร ศัพท์ธุรกิจ ภาษาอังกฤษคำ ไทยคำ หรือแม้แต่เวลาเรานำเสนออะไร ทำไมผู้ใหญ่ไม่สนใจ? หรือแม้แต่ทำไมการวางแผน การจัดการแบบนั้น แบบนี้ไม่ตรงใจเราเลย

ตรงนี้ตอบได้ครับ เพราะมุมมองเรา อาจจะไม่ครอบคลุม หรือผู้บริหารอาจมองแล้วว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน หรือก่อให้เกิดผลกำไรไงครับ และที่เราฟังศัพท์บางตัวไม่ออก เพราะเป็นศัพท์ทางธุรกิจที่นักบริหาร พึงต้องรู้ก่อน

เราเลยต้องมาเรียน MBA ไงละครับ เพราะว่าอยากเป็นผู้บริหาร อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราเลยต้องเข้าใจโครงสร้าง องค์ประกอบต่างๆ ของธุรกิจ เพื่อช่วยเราในการวิเคราะห์ การวางแผน และตัดสินใจ

ลองมาดูนะครับวิชาที่เราจำเป็นต้องรู้มีอะไรบ้าง? ขอเริ่มจากวิชาที่เป็นยาขมสำหรับหลายๆ คน คือ
  • วิชาที่เป็นคำนวณ เช่น วิชาบัญชีสำหรับผู้บริหาร และ วิชาการจัดการการเงิน ตรงนี้หากใครไม่ชอบตัวเลขคงช็อค ว่าจะเรียนรู้เรื่องใหม? ผมมีคำถามใหม่ แล้ววันหนึ่งถ้าเราทำธุรกิจ ไม่สนใจการใช้เงิน การลงทุน หรือไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าทำธุรกิจเสร็จแล้วเงินหายไปไหนหมด วิชาเหล่านี้ช่วยได้ครับ เพราะเราจะเห็นสถานะทางการเงินของเราหายไปไหน? อยู่ที่ไหน? ลงทุนในอะไรบ้าง? เราเรียนไม่ได้เพื่อไปเป็นนักบัญชี ทำงานด้านการเงินจ๋าๆ ขนาดนั้น สำหรับผมให้แนวคิดง่ายๆ ให้เราคิดถึงธุรกิจของเรา ของครอบครัว หรือของบริษัท และคิดภาพตามว่า วันนี้เป็นอย่างไร? และเราจะต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง วางแผนในการตัดสินใจอย่างไรดี
  • วิชาการจัดการและพฤติกรรมองค์การ วิชานี้ก็ช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างองค์กร เพราะสุดท้ายแล้วเราทำงานกันเป็นทีมครับ จะบริหารจัดการอย่างไร โครงสร้างองค์กรแบบไหนเหมาะกับเรา จะคัดเลือกคนให้ถูกกับงานยังไงดี 
  • วิชาการจัดการการดำเนินงาน เรื่องนี้ก็สำคัญ รู้ว่าพวกสายวางแผน โดยเฉพาะเด็กสายวิศวะจะชอบมาก เพราะเข้าใจกระบวนการ การผลิตและการบริการ ซึ่งเราจะเข้าใจ หลักการประยุกต์ เพื่อพัฒนาธุรกิจเราได้ และส่วนของโครงการนี้ ก็จะมีเสริมในเรื่องของการจัดการเรื่องของ Data หรือข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยในการบริหารจัดการเช่นกัน 
  • วิชาวิธีการวิจัยทางธุรกิจ มาถึงวิชาที่เรียกได้ว่ายาขมขนาดแท้ของหลายๆคน สำหรับผมขอแนะนำอย่างนี้ครับว่า ถ้าหากเราเข้าใจวิชานี้ จะทำให้เราเป็นคนมีเหตุ มีผล มีกระบวนการคิด มีที่ไปที่มาของข้อมูล และผลลัพธ์ต่างๆ เพราะมีความเชื่อมโยงไปสู่ผลลัพธ์
  • วิชาการจัดการเชิงกลยุทธ์ เป็นวิชาที่สนุกและท้าทายมาก เพราะเราจะต้องวิเคราะห์ รู้จักตัวเรา รู้จักโลก รู้จักสภาพแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจ และลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ (ต้องมาเรียนครับจะได้รู้ว่าสนุกแค่ไหน)
  • วิชาการจัดการการตลาด ขอบอกก่อนนะครับการตลาดไม่ใช่แค่เรื่องการขาย แต่เป็นเสาหลักอีกต้นที่เราต้องเข้าใจตัวเราเอง เข้าใจคู่แข่ง และเข้าใจลูกค้า ผมเชื่อครับว่า เราเรียนวิชานี้แล้วจะทำให้เราเข้าใจพื้นฐานที่ดี เข้าใจโลก และเข้าใจธุรกิจที่มีการแข่งขันอีกมากมาย (อาจารย์ที่นี่เก่งมาก ถึงมากที่สุด :) รับรองครับสนุกแน่นอน)
นี่ละครับสิ่งต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องรู้สำหรับ MBA หรือเรากำลังจะเป็นมาสเตอร์ทางด้านธุรกิจ

มาถึงตรงนี้ แล้วเราถึงจะเลือกเข้าวิชาสาขากันครับ ก็มาถามตัวเองอีกครั้งว่า "เราอยากเรียนสาขาไหนดี จะการตลาด หรือการจัดการดีนะ?" 

ตรงนี้ผมขอฝาก link ไปให้อ่านกันต่อนะครับ เคยเขียนไว้นานแล้ว



ขอทิ้งท้ายไว้สักนิดนะครับ สำหรับวิชาเอกการตลาด ของโครงการฯ ตามหลักสูตรปรับปรุงของ คณะบริหารธุรกิจ ม.รามคำแหง ปี 2565 เรามีการปรับเปลี่ยนวิชาเพิ่มขึ้น และเป็นวิชาที่มีความสำคัญสำหรับนักการตลาด ซึ่งรวมหลักคิด หลักการ และกระบวนการใหม่ๆ ผมคงไม่อธิบายมาก ที่สำคัญในวิชาประเด็นสำคัญทางการตลาดของเรา จะมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาใหม่ตลอดตามกระแสการตลาด และนักการตลาดปัจจุบันและในอนาคตต้องเตรียมความพร้อม ผมขอยกตัวอย่างนะครับในปีนี้ (2565) เนื้อหาที่นำมาสอนคือ Digital Marketing, Social Media Marketing, Content Marketing, Social Listening, Data Driven, Data Mining รวมถึงเครื่องมือ MarTech (Marketing Technology), SEO, SEM ให้ทุกๆคนไม่ตกขบวนแน่นอน

"ความรู้ความเข้าใจ เรื่องธุรกิจ อาจเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับหลายๆ คน แต่ไม่ใช่...ทุกๆคน... ถ้าไม่รู้ ก็แค่มาเรียนรู้ แล้วจะรู้ว่า "เรื่องธุรกิจ จะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเรา"



ติดตาม/แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาด
สามารถติดตามข่าวสาร และแลกเปลี่ยบข้อมูลผ่าน Open Chat ของโครงการฯ ได้ที่

Innovative Marketing by MBA for IT-Smart Program



Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า